**ขออณุญาตเจ้าของรูปด้วย เก็บไว้นานแล้ว จำที่มาของรูปไม่ได้ 😅**
การอ่านกรณี 4 แถบ: เอาค่าตัวเลขหลัก 1,2 มาต่อกัน แล้วต่อด้วยจำนวนเลข 0 ตามค่าหลักที่ 3, หลักสุดท้ายบอกความคลาดเคลื่อน
การอ่านกรณี 5 แถบ: เอาค่าตัวเลขหลัก 1,2,3 มาต่อกัน แล้วต่อด้วยจำนวนเลข 0 ตามค่าหลักที่ 4, หลักสุดท้ายบอกความคลาดเคลื่อน
การจำค่าสีง่ายๆ ให้นึกถึงการท่องสีรุ้ง และเริ่มนับที่ค่า 7 แล้วลดลงไปเรื่อยๆ (โดยไม่มีสีคราม) เช่น
- สีรุ้งที่ท่องปกติคือ ม่วง-คราม-น้ำเงิน-เขียว-เหลือง-แสด(หรือส้ม)-แดง
- ตัด สีคราม ออก เพราะใกล้เคียงกับสีม่วง ทำให้ดูยาก ก็จะเหลือ ม่วง-น้ำเงิน-เขียว-เหลือง-แสด(หรือส้ม)-แดง
- เริ่มด้วย ม่วง คือ 7 แล้วนับลดลงไปเรื่อยๆ 7 6 5 4 3 2
- แล้วจำต่อแค่ น้ำตาล คือ 1 และ ดำ คือ 0 (จะง่ายขึ้นถ้าคิดว่า น้ำตาล คือ สีแดงที่มืดขึ้น และใกล้จะเป็นสีดำ แล้วลดค่าลงเป็น 1 และ 0 ตามลำดับ)
- ส่วน เทา และ ขาว คือสีเริ่มสว่างเพิ่มขึ้นหลังจาก ม่วง จึงนับเพิ่มขึ้น จะได้ค่า 8 และ 9 ตามลำดับ
* ตัวอย่าง ตัวต้านทาน 4 แถบสี
- แถบสีที่ 1, 2 คือ น้ำตาล, ดำ แทนด้วย 1 และ 0 จะได้ 1 0
- แถบรองสุดท้าย คือแถบ 3 สีเหลือง แทนด้วยเลข 0 จำนวน 4 ตัว(เหลือง=4) คือ 0000
- เมื่อเอาทั้ง 3 แถบสีแรกมาต่อกัน จะได้เป็น 1 0 0000=100000 หรือถ้า เอา 1000 ไปหาร จะได้เป็นหน่วย กิโล (k) จะได้เท่ากับ 100k
- ดังนั้น ตามค่าสี ตัวต้านทานตัวนี้มีค่าความต้านทาน 1 แสนโอห์ม (ohm) หรือ 100k ohm หรือ 100 กิโลโอห์ม
- แถบสุดท้าย สีทอง คือ ความคลาดเคลื่อน ±5% แปลว่า หากตัวต้านตัวนี้ทำงานได้ปกติ ค่าความต้านทานจริงต้องอยู่ระหว่าง 95k - 105k ohm
