🖼️JPG กับ PNG ข้อดี ข้อเสีย วิธีเลือกใช้งาน

 ไฟล์ JPG (หรือ JPEG) และ PNG ต่างมีข้อดีข้อเสียและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน:

📷 JPG (Joint Photographic Experts Group)

ข้อดี:

- ขนาดไฟล์เล็ก: ใช้การบีบอัดแบบมีการสูญเสียข้อมูล (lossy compression) ทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กและประหยัดพื้นที่

- รองรับสี 24-bit: แสดงสีได้หลากหลายและเหมาะกับภาพถ่าย

- รองรับการแสดงผลบนเว็บดีมาก: โหลดเร็ว เหมาะกับการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต

ข้อเสีย:

- สูญเสียคุณภาพเมื่อบีบอัด: ยิ่งบีบอัดมาก คุณภาพของภาพจะลดลง

- ไม่รองรับพื้นหลังโปร่งใส: หากต้องใช้พื้นหลังโปร่งใส JPG ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี

- ไม่เหมาะกับภาพที่ต้องการความคมชัดสูง: เช่น โลโก้หรือกราฟิกที่มีเส้นคม

🖼 PNG (Portable Network Graphics)

ข้อดี:

- รองรับพื้นหลังโปร่งใส: เหมาะกับการออกแบบกราฟิก เช่น โลโก้ ไอคอน

- บีบอัดแบบไม่สูญเสียข้อมูล (lossless compression): คงคุณภาพของภาพไว้แม้ว่าจะถูกบีบอัด

- รองรับสี 24-bit และยังมีเวอร์ชัน PNG-8 สำหรับไฟล์ที่เล็กลง

- เหมาะกับภาพที่มีรายละเอียดคมชัด: เช่น ไดอะแกรม แผนภูมิ และกราฟิกที่ต้องการความละเอียดสูง

ข้อเสีย:

- ขนาดไฟล์ใหญ่กว่า JPG: ไม่เหมาะกับการใช้ในกรณีที่ต้องการประหยัดพื้นที่

- โหลดช้ากว่า JPG: โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ที่ต้องแสดงภาพจำนวนมาก

🎯 เลือกใช้ยังไง

✅ ใช้ JPG → สำหรับภาพถ่ายทั่วไป ภาพที่ต้องการขนาดเล็ก และการใช้งานบนเว็บไซต์ ✅ ใช้ PNG → สำหรับโลโก้ ไอคอน หรือภาพที่ต้องมีพื้นหลังโปร่งใสและคงความคมชัด

ถ้าต้องการภาพที่คมชัดโดยไม่สูญเสียรายละเอียด PNG เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าต้องการไฟล์เล็กเพื่อการใช้งานที่โหลดเร็ว JPG จะเหมาะกว่า 😃

ที่มา: MS Edge Copilot